การจัดการขยะแบบไม่ต้องเผา มีหลากหลายวิธีที่สามารถทำได้ ดังต่อไปนี้:
- การแยกขยะ: การแยกขยะเป็นหลายประเภท เช่น ขยะอินทรีย์ ขยะรีไซเคิล และขยะทั่วไป จะทำให้สามารถนำแต่ละประเภทขยะไปใช้ประโยชน์ได้ในทางต่างๆ
- การทำปุ๋ยหมัก: ขยะอินทรีย์ ได้แก่ เศษอาหาร ใบไม้ และขยะสิ่งมีชีวิตอื่นๆ สามารถนำไปทำปุ๋ยหมักสำหรับการทำการเกษตร ทั้งในระดับครัวเรือน และระดับที่มากกว่า
- การรีไซเคิล: ขยะที่สามารถรีไซเคิล เช่น กระดาษ โลหะ แก้ว และพลาสติก สามารถนำไปแปรรูปเป็นสินค้าใหม่ ทำให้ลดการใช้ทรัพยากรใหม่
- การบริจาค: สิ่งของที่ยังใช้งานได้แต่ไม่ต้องการใช้ต่อ สามารถนำไปบริจาค ซึ่งจะทำให้สิ่งของเหล่านั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
- การนำไปใช้ในการผลิตพลังงาน: ขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ สามารถนำไปใช้ในการผลิตพลังงาน เช่น การทำพลังงานจากก๊าซมูลฝอย หรือการทำพลังงานจากขยะที่สามารถหักย่อยได้
- การนำไปใช้ในการก่อสร้าง: บางประเภทของขยะ เช่น ขวดแก้ว หรือยางรถยนต์ สามารถนำไปใช้ในการก่อสร้าง ทั้งในรูปแบบของการตกแต่ง และในการสร้างอาคาร
โดยทั่วไป การจัดการขยะโดยไม่ใช้วิธีการเผา จะช่วยลดปริมาณของขยะที่ต้องจัดการ และช่วยประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ ในเวลาเดียวกัน
ขยะแบบไหนใช้เวลาย่อยสลายเวลานาน
ขยะบางชนิดใช้เวลาย่อยสลายในธรรมชาติเป็นเวลานานมาก ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของชนิดขยะที่ใช้เวลาย่อยสลายนาน:
- พลาสติก: พลาสติกใช้เวลาย่อยสลายระหว่าง 10 ถึง 1,000 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทของพลาสติก เช่น ถุงพลาสติกสามารถใช้เวลาย่อยสลายเป็นเวลาสูงสุด 1,000 ปี
- กระจก: กระจกใช้เวลาย่อยสลายระหว่าง 1 ถึง 2 ล้านปี
- โลหะ: โลหะทั่วไปอาจใช้เวลาหลายร้อยปีในการย่อยสลาย แต่สำหรับอลูมิเนียมและตะกร้าสามารถใช้เวลาถึง 200 ปี
- ยางรถยนต์: ยางรถยนต์ใช้เวลาย่อยสลายระหว่าง 50 ถึง 80 ปี
- โฟมพลาสติก (Styrofoam): โฟมพลาสติกหรือ Styrofoam ใช้เวลาย่อยสลายมากกว่า 500 ปี
- แบตเตอรี่: แบตเตอรี่สามารถใช้เวลาย่อยสลายเป็นเวลาถึง 100 ปี
ทั้งนี้ ความจริงคือบางชนิดของขยะเรายังไม่รู้จริง ๆ ว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ในการย่อยสลาย เนื่องจากมนุษยชาติได้สร้างขยะชนิดเหล่านี้มาเพียงไม่นาน ทำให้เรายังไม่มีโอกาสเห็นการย่อยสลายของมันในธรรมชาติจนจบลง.
ติดตามข่าวสารและบทความเกี่ยวกับ The Sustain – ธุรกิจและความยั่งยืน พลังงาน ภาวะโลกร้อน ทรัพยากรธรรมชาติ