Sustainability คืออะไร อยากช่วยโลก ต้องรู้!
อย่างที่เราทราบกันดีว่า ตอนนี้ปัญหาภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงมากขึ้น นำมาซึ่งความร่วมมือของทั่วโลกในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและใช้นวัตกรรมในการดูดกลับก๊าซเรือนกระจก ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาดังกล่าวเกิดมาจากผลกระทบจากธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน การใช้พลังงานต่าง ๆ ล้วนส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมทั้งนั้น จึงเกิดคำ ๆ หนึ่งขึ้นมา “Sustainability” เราจะมาทำความรู้จักคำนี้กันค่ะ ว่าคำนี้จะมีส่วนช่วยโลกของเราอย่างไรได้บ้าง
Sustainability คืออะไร
หากแปลตรงตัว Sustainability คือ ความยั่งยืน ความสามารถในการคงทน เป็นวิธีที่ระบบชีววิทยายังคงความหลากหลายและมีผลผลิต (productive) ได้ไม่จำกัด แต่ถ้าพูดรวม ๆ ในเรื่องของสิ่งแวดล้อมแล้วนั้น จะหมายถึงความยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องอาศัยการพัฒนาความยั่งยืนนั่นเอง การพัฒนาที่ยั่งยืน คือการพัฒนาที่ตอบสนองความต้องการของคนในรุ่นปัจจุบัน โดยไม่ทำให้คนในรุ่นอนาคต ต้องยอมลดทอนหรือต้องประนีประนอม ความสามารถในการใช้ทรัพยากรนั้น เนื่องจากทรัพยากรมีขีดจำกัด
มนุษย์ ตัวการขับเคลื่อนการพัฒนาความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
การที่จะทำให้สิ่งแวดล้อมมีการพัฒนาได้อย่างยั่งยืน (Sustainability Development) นั้น จำเป็นที่จะต้องอาศัยปัจจัยหลาย ๆ โดยเฉพาะ “ปัจจัยด้านมนุษย์” เพราะเราจะเห็นว่ามนุษย์เป็นตัวเร่งในการทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ถ้าจะหยุดเรื่องของปัญหาสิ่งแวดล้อม และต้องการให้เกิดการพัฒนาได้อย่างยั่งยืนนั้น จะต้องให้มนุษย์เป็นผู้เริ่มทำให้เสร็จสิ้นกระบวนการพัฒนาความยั่งยืน
Sustainability กับภาคธุรกิจ ช่วยโลกได้อย่างไร
เราก็ได้รู้กันแล้วว่ามนุษย์เป็นปัจจัยหลักในการเร่งให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งในภาคธุรกิจเองก็มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมทั้งในฐานะผู้สร้างผลกระทบและผู้ที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตส่วนใหญ่มักเป็นทรัพยากรที่มาจากธรรมชาติซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด แต่สวนทางกับความต้องการใช้ทรัพยากรที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเมื่อวิเคราะห์ตามห่วงโซ่คุณค่าแล้ว จะเห็นว่าสิ่งแวดล้อมมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจอย่างมาก ตั้งแต่การผลิตสินค้าและบริการ การขนส่งหรือส่งมอบสินค้า การตลาดและการขายสู่ผู้บริโภค ไปจนถึงการใช้สินค้าและบริการของผู้บริโภคเองก็ล้วนเกี่ยวข้องกับ การใช้พลังงาน การใช้น้ำ การสร้างของเสียและมลพิษ รวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่ธุรกิจต้องใส่ใจ เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงและการสร้างโอกาสของการแข่งขันในระยะยาวไปพร้อมกันให้เกิด Sustainability ประกอบด้วยองค์ประกอบดังนี้
1. การบริหารจัดการพลังงาน
การดำเนินธุรกิจทุกอย่างต้องอาศัยพลังงาน ซึ่งพลังงานที่ใช้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นพลังงานที่ใช้แล้วหมดไป
การ ภาคธุรกิจจึงควรบริหารจัดการพลังงานอย่างรู้คุณค่าเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งพิจารณาทางเลือกของการใช้พลังงานทดแทน เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจจะมีแหล่งพลังงานที่ใช้ได้อย่างเพียงพอในระยะยาว และยังช่วยให้เกิดความยั่งยืน (Sustainability) ในการลดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม
2. การบริหารจัดการน้ำ
น้ำมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจทั้งในกระบวนการผลิตสินค้าและบริการรวมถึงการอุปโภค
บริโภคด้วย ซึ่งวิกฤตน้ำที่ส่งผลต่อธุรกิจ ได้แก่ การขาดแคลนน้ำ คุณภาพน้ำเสื่อมโทรม และการเข้าถึงแหล่งน้ำที่ไม่ทั่วถึงหรือไม่เท่าเทียม ดังนั้นการบริหารจัดการน้ำเพื่อให้เกิดความยั่งยืน (Sustainability) จึงควรใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การลดการใช้น้ำ การนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำ และการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่หลังการบำบัด
3.การบริหารจัดการขยะ ของเสียและมลพิษต่าง ๆ
ธุรกิจก่อให้เกิดขยะและของเสียในเกือบทุกกระบวนการ เช่น ของเสียที่เกิดขึ้นตั้งแต่ขั้นตอนของการ
ได้มาซึ่งวัตถุดิบ การขนส่งและจัดเก็บวัตถุดิบ การผลิตสินค้าและบริการ การขนส่ง ฯลฯ การบริหารจัดการขยะให้เกิดความยั่งยืน (Sustainability) จึงให้ความสำคัญกับการลดการใช้ การนำกลับไปใช้ซ้ำหรือรีไซเคิล การปรับกระบวนการผลิต ปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ หรือโมเดลธุรกิจ และส่งเสริมให้เกิดระบบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน
4.การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ทุกธุรกิจล้วนมีส่วนสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในเกือบทุกกิจกรรม
ทั้งในทางตรงและทางอ้อม ซึ่งก๊าซเรือนกระจก ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการเลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การจัดการให้เกิดความยั่งยืน (Sustainability) อย่างที่ทั่วโลกกำลังทำอยู่นั้น คือการจัดทำ carbon footprint ขององค์กรและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่าง ๆ
ความยั่งยืน (Sustainability) ที่จะรักษาทรัพยากรสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ต่อไปนาน ๆ จะสำเร็จได้ต้องการจัดการระบบที่ดีเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการใช้ของมนุษย์