แฟชั่นเพื่อความยั่งยืนคืออะไร เทรนด์รักษ์โลกเพื่อคนรักโลก
เพราะสถานการณ์สิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ ทำให้หลายวงการพากันปรับตัวเพื่อรักษาโลกของเราไว้ ปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตสินค้ามากมาย ที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ไม่เว้นแม้แต่วงการแฟชั่น ที่แน่นอนว่าจุดขายอยู่ที่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ด้วยความเทรนด์ของการแต่งกายจะต้องทันสมัยอยู่เสมอ จึงส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ซื้อเสื้อผ้ามาใช้ได้ไม่นาน ก็ต้องทิ้งเพื่อตามเทรนด์ให้ทัน ที่สุดแล้วเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้ก็กลายเป็นขยะ ทำให้หลายปีที่ผ่านมา วงการแฟชั่นจึงต้องปฏิวัติ หยิบความรักษ์โลกมาใส่ในแฟชั่นให้เกิดเป็นกระแสนิยม จนเกิดไอเดีย “แฟชั่นเพื่อความยั่งยืน” ขึ้น แล้วแฟชั่นเพื่อความยั่งยืนคืออะไร?
ทำความรู้จักแฟชั่นเพื่อความยั่งยืน
แฟชั่นเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Fashion) หรือบางครั้งก็เรียกกันว่าแฟชั่นเชิงนิเวศ เป็นการเคลื่อนไหวและกระบวนการของการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงในสินค้าแฟชั่นและระบบแฟชั่นสู่ความสมบูรณ์ของระบบนิเวศและความยุติธรรมทางสังคมที่มากขึ้น ดังนั้นแฟชั่นเพื่อความยั่งยืนจึงเป็นอะไรที่มากกว่าแค่สิ่งทอหรือสินค้าแฟชั่นเท่านั้น หรือถ้าจะอธิบายให้มันง่ายขึ้น ก็คือเสื้อผ้าที่ออกแบบ ผลิต จำหน่าย และใช้กระบวนการในลักษณะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงหลักจริยธรรม ที่จะให้ความสำคัญกับสวัสดิการทางสังคมและสิทธิของคนงาน รวมถึงหลีกเลี่ยงการผลิตด้วยวัตถุดิบที่ทำจากสัตว์ อย่างหนังสัตว์ เส้นใยสัตว์ที่ถูกทอเป็นเสื้อผ้า
รู้หรือไม่ว่าแฟชั่นในปัจจุบันยังไม่ใช่แฟชั่นเพื่อความยั่งยืน
แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงหรือปฏิวัติอะไรสักอย่างเป็นเรื่องที่ใหญ่และยากไม่น้อย คำว่ายั่งยืนมันหมายถึงระยะเวลาที่ยาวนาน นั่นแปลว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นจะเดินบนวิถีแห่งความยั่งยืนนี้ไปอีกหลายทศวรรษ แต่ในความเป็นจริงแล้ว แฟชั่นในยุคปัจจุบันเป็น “แฟชั่นแบบทันด่วน” เสื้อผ้าที่ถูกออกแบบมาให้ผู้บริโภคสามารถใช้ได้อย่างรวดเร็วและมีราคาถูก ผู้ใช้หลายคนจึงเลือกที่จะทิ้งและวิ่งตามแฟชั่นให้ทัน นั่นจึงทำให้เสื้อผ้ากลายเป็นของที่ใช้แล้วทิ้งในทันที
วัฏจักรของแฟชั่นยังเป็นอะไรที่ห่างไกลจากความยั่งยืนอีกมาก เพราะมันทำให้ทรัพยากรธรรมชาติของโลกหมดไปในอัตราที่เร่งสปีดขึ้นอีก มีแต่ผลเสียตามมามากมาย เพราะแฟชั่นก็ยังคงเป็นแฟชั่นอยู่วันยังค่ำ
ความเคลื่อนไหวเรื่องแฟชั่นเพื่อความยั่งยืน
แม้ว่าปัจจุบันแวดวงแฟชั่นจะยังคงไม่ได้ปรับเปลี่ยนเป็นแฟชั่นเพื่อความยั่งยืนก็ตาม แต่ก็มีความคิดริเริ่มจากคนบางกลุ่มที่จะพัฒนาให้แนวความคิดนี้ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในสังคม ไม่ว่าจะเป็น การใช้วัสดุจากวีแกน, ฝ้ายออร์แกนิก หรือ econyl-เส้นใยไนลอนที่ผลิตจากขยะพลาสติกในทะเล ซึ่งแบรนด์ดัง ๆ ระดับไฮเอนหลาย
แบรนด์ ก็พากันพร้อมใจเข้าสู่การเป็นผู้นำตลาดแฟชั่นที่เป็นมิตรต่อโลก เช่น Gucci ผลิตกระเป๋าถือรุ่น “Dionysus” โดยใช้วัสดุโพลียูรีเทนแทนการใช้พีวีซี จากเดิมที่กระเป๋าส่วนใหญ่ทำมาจากหนังสัตว์ ซึ่งมาจากการปศุสัตว์ที่บริโภคทรัพยากรธรรมชาติมหาศาลทั้งดินและน้ำ แล้วยังมีการฟอกหนังสัตว์ด้วยสารโลหะหนักอย่างโครเมียม ทำให้เกิดของเสียที่เป็นมลพิษและอันตรายต่อสุขภาพ หรืออีกวัตถุดิบที่นิยมนำไปทำกระเป๋าอย่าง พีวีซี (PVC) ก็เป็นสาเหตุของปัญหาการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม แม้จะเป็นเปอร์เซ็นต์เพียงเล็กน้อยในตลาดก็ตาม แต่นี่ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในอนาคตก็ได้
แต่หากผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่ได้สนใจเรื่องนี้แบบจริง ๆ จัง ๆ ยังคงตามเทรนด์แฟชั่นใหม่ ๆ อยู่เสมอ ก็อาจจะไม่ได้ทำให้เกิด Impact ที่มากพอที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในเร็ววันนี้ นั่นหมายความว่า ถ้าจะรักษ์โลก ก็ควรที่จะเริ่มรู้สึกรักโลกให้ได้ก่อน ปรับกันไปทีละนิด ก็คงดีกว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เลยก็ได้ค่ะ
ติดตามข่าวสารและบทความเกี่ยวกับ The Sustain – ธุรกิจและความยั่งยืน พลังงาน ภาวะโลกร้อน ทรัพยากรธรรมชาติ