พลังงานนิวเคลียร์

ถ้าพูดถึงพลังงานนิวเคลียร์ คือพลังงานในนิวเคลียส ที่ได้จากแกนกลางของอะตอม อะตอมเป็นหน่วยเล็กๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นสสารทั้งหมดในจักรวาล และเป็นสิ่งที่ยึดนิวเคลียสไว้ด้วยกัน มีพลังงานจำนวนมากในนิวเคลียสที่หนาแน่นของอะตอม อันที่จริง พลังที่ยึดนิวเคลียสไว้ด้วยกันนั้นเรียกอย่างเป็นทางการว่า “พลังงานอันแข็งแกร่ง” โดยพลังงานนิวเคลียร์ใช้สร้างไฟฟ้าได้ แต่ต้องปล่อยออกจากอะตอมก่อน ในกระบวนการแยกตัวของนิวเคลียร์ อะตอมจะถูกแยกออกเพื่อปลดปล่อยพลังงานนั้นออกมา ทำให้เป็นความร้อนก่อนเข้าสู่การผลิตจริง จะเห็นได้ว่ามันเป็นพลังงานที่พัฒนามาเพื่อการดำรงชีวิตบางอย่างที่เกินขีดจำกัดของมนุษย์ แต่ยังไม่มีการระบุว่ามันมีความยั่งยืนแค่ไหน

กรรมวิธีของพลังงานนิวเคลียร์ที่ใช้ในเตาปฏิกรณ์ จะอาศัยความร้อนที่เกิดจากการแยกตัวของนิวเคลียร์ ทำให้สารทำความเย็นของเครื่องปฏิกรณ์อุ่นขึ้น สารทำความเย็นมักจะเป็นน้ำ แต่เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์บางเครื่องใช้โลหะเหลวหรือเกลือหลอมเหลวอยู่ในนั้น สารทำความเย็นซึ่งได้รับความร้อนจากการแยกตัวของนิวเคลียร์ทำให้เกิดไอน้ำ ไอน้ำจะเปลี่ยนกังหันหรือล้อหมุนด้วยกระแสน้ำไหล กังหันขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์ที่สร้างกระแสไฟฟ้า ทำให้สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าที่ทรงอนุภาคอย่างมาก แต่ก็เป็นที่ถกเถียงกันว่า พลังงานนิวเคลียร์ จะเป็นพลังงานที่ดีในอนาคตสำหรับโลกใบนี้หรือไม่ และจะเป็นการพัฒนาที่ให้ความยั่งยืนได้จริงหรือ

ประโยชน์ของ “พลังงานนิวเคลียร์” ที่สำคัญต่อมนุษย์

  1. ทางอาหาร : การพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์เพื่อการถนอมอาหาร เช่น การฉายรังสีอาหารด้วยรังสีแกมมา (Gamma Rays) โดยนำการใช้รังสีไอออไนซ์กับอาหาร เป็นเทคโนโลยีพลังงานที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการเก็บรักษาอาหารโดยการลดหรือกำจัดจุลินทรีย์และแมลง ที่ส่งผลให้อาหารเน่าเสีย หรือมีแมลงเข้ามาในอาหาร เช่นเดียวกับนมพาสเจอร์ไรส์ และผลไม้และผักบรรจุกระป๋อง การฉายรังสีสามารถทำให้อาหารปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค
  2. ทางด้านคุณภาพชีวิต : พลังงานนิวเคลียร์ผลิตกระแสไฟฟ้าที่สามารถนำมาใช้เป็นพลังงานให้กับบ้าน โรงเรียน ธุรกิจ และโรงพยาบาล ซึ่งพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเภท หากใช้ในด้านกระแสไฟฟ้า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ผลิตพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในอากาศหรือปล่อยก๊าซเรือนกระจก สามารถสร้างได้ในเขตเมืองหรือในชนบท และไม่เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมโดยรอบ รวมถึงใช้ในทางการแพทย์ เช่น การฉายรังสี การตรวจ X-Rays
  3. ทางด้านความมั่นคง : การมีพลังงานนิวเคลียร์เพื่อปกป้องประเทศเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องไม่ใช้เพื่อการคุกคาม เนื่องจากการมีประเทศมหาอำนาจใช้เพื่อพัฒนาเป็นยุทโธปกรณ์ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน เกาหลีเหนือ ออสเตรเลีย แคนาดา คาซัคสถาน รัสเซีย และอุซเบกิสถาน หากใช้ในลักษณะคุกคามประเทศอื่น จะเป็นอันตรายในระยะยาวมาก แน่นอนว่าการนำพลังงานเพื่อการทำลายล้างรุนแรง ย่อมส่งผลเสียออกมาเป็นวงกว้าง และใช้เวลานานกว่ามันจะสลายไป

แม้ว่าจะมีประโยชน์มากมาย แต่ยังไม่ชัดเจนว่ากระบวนการนี้จะเป็นทางเลือกสำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้า หรือนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่สร้างความยั่งยืนหรือไม่ โดยวิศวกรนิวเคลียร์กำลังค้นคว้าประโยชน์ที่ใช้ในนิวเคลียร์ฟิวชัน เนื่องจากกระบวนการนี้น่าจะปลอดภัยและคุ้มค่า และยังไม่มีข้อพิสูจน์ชัดเจน รวมถึงความรัดกุมในการจัดเก็บกากของเสียจากพลังงานนิวเคลียร์ ที่มาในรูปแบบกากกัมมันตภาพรังสี ซึ่งเป็นสิ่งที่เหลือจากการทำงานของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ที่แปรสภาพมาเป็นขยะกัมมันตภาพรังสี ส่วนใหญ่เป็นชุดป้องกันที่สวมใส่โดยคนงาน เครื่องมือ และวัสดุอื่นๆ ที่สัมผัสกับฝุ่นกัมมันตภาพรังสี กากกัมมันตภาพรังสีจะอยู่ได้นาน แต่วัสดุเช่นเสื้อผ้าและเครื่องมือสามารถคงสภาพทางอนุภาคกัมมันตภาพรังสีได้นานหลายพันปี ซึ่งรัฐบาลจะต้องควบคุมวิธีการกำจัดวัสดุเหล่านี้เพื่อไม่ให้ปนเปื้อนสิ่งอื่น

อย่างไรก็ตาม ผลพลอยได้จากพลังงานนิวเคลียร์เป็นวัสดุกัมมันตภาพรังสี วัสดุกัมมันตภาพรังสีเป็นกลุ่มของนิวเคลียสของอะตอมที่ไม่เสถียร นิวเคลียสเหล่านี้สูญเสียพลังงานและสามารถส่งผลกระทบต่อวัสดุมากมายรอบตัว รวมถึงสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม สารกัมมันตภาพรังสีอาจเป็นพิษได้ เช่น ทำให้เกิดแผลไหม้และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง โรคในเลือด และการสลายตัวของกระดูก รวมถึงการเก็บโดยต้องมีสัญลักษณ์ควบคุม เพื่อป้องกันการได้รับอันตรายจากการเก็บสารเคมีหรือสารที่เกี่ยวข้องกับพลังงานนิวเคลียร์ การบังคับใช้ทางกฎหมายควบคุมที่เด็ดขาด จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะความต้องการของมนุษย์ยังต้องการพลังงานนี้อยู่ เพียงแต่เน้นใช้พัฒนาในแต่ละรูปแบบ แต่การพัฒนาที่ต้องให้ความยั่งยืนจะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยต่อตนเอง ผู้อื่น และสิ่งแวดล้อมในการดำเนินชีวิตอีกด้วย

ติดตามข่าวสารและบทความเกี่ยวกับ The Sustain – ธุรกิจและความยั่งยืน พลังงาน ภาวะโลกร้อน ทรัพยากรธรรมชาติ

thesustain.space

Turnoff
นักเขียนอิสระหลากหลายธุรกิจ เขียนคอนเท้นท์ SEO ประสบการณ์มากกว่า 10 ปี turnoffweb.com

3 นิยามความงามที่ยั่งยืน ของสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2

Previous article

แนวคิดด้านเกษตรอัจฉริยะ “Smart Farmer”

Next article

You may also like

More in TOP STORIES