ประเทศไทย ทิ้งขยะพลาสติกลงทะเล 1 ใน 10 ของโลก ขณะที่ช่วงเทศกาล มีประชาชนเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก การคัดแยก-ลดปริมาณขยะ จะช่วยป้องกันขยะล้นแหล่งท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม ไม่สร้างขยะ
จากข้อมูลของ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พบว่า ปริมาณขยะมูลฝอยช่วงปี 2564 (ตุลาคม 2563 – กันยายน 2564) มีประมาณ 1,864 ตัน
- ขยะอินทรีย์ มากที่สุด จำนวน 737.58 ตัน หรือ 39.56%
- ขยะทั่วไป จำนวน 722.26 ตัน หรือ 39.33%
- ขยะรีไซเคิล เช่น ขวดแก้ว แก้ว และขวดพลาสติก จำนวน 291.26 หรือ 15.62%
- ขยะอันตราย จำนวน 59.47 ตัน หรือ 3.19%
- ขยะอื่นๆ จำนวน 42.95 ตัน หรือ 2.30%
เมื่อแยกเป็นขยะพลาสติก ได้แก่
ถุงพลาสติกหูหิ้ว จำนวน 812,591 ใบ แก้วพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง จำนวน 208,179 ใบ
โฟมบรรจุอาหาร จำนวน 31,301 ใบ
จากข้อมูล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเล ปี 2564 พบว่า ขยะที่ตกค้างชายฝั่ง มากที่สุด ได้แก่
- ขวดเครื่องดื่มพลาสติก
- ถุงพลาสติก
- เศษโฟม
- ขวดเครื่องดื่ม
- แก้ว
- ถุงก๊อปแก๊ป
- ถุงอาหาร
- เศษพลาสติก
- เสื้อผ้า
- รองเท้า
- เครื่องประดับ
- แว่นตา และสร้อยคอ
- กล่องอาหาร กล่องโฟม และกระป๋องเครื่องดื่ม
- คิดเป็น 73%ของขยะทั้งหมด
ส่วนที่เหลือเป็นขยะประเภทอื่นๆ 27%
ขณะที่ ช่วงเทศกาลท่องเที่ยว ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว ในอุทยานแห่งชาติ ทั้งทางบกและทางทะเล รวมถึงสถานที่อื่นๆ ส่งผลให้ปริมาณขยะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งจากนักท่องเที่ยวเอง หรือจากโรงแรมรีสอร์ท บังกะโล ตลาดน้ำ และร้านอาหาร
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ คาดว่าจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางไปท่องเที่ยวและพักในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่งในประเทศไทย ส่งผลให้ปริมาณขยะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันลดปริมาณขยะอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง ดูแลรักษาสภาพแวดล้อม
1) คัดแยก และทิ้งขยะลงในถังหรือภาชนะที่จัดไว้อย่างถูกต้อง เลือกใช้ภาชนะที่ทำจากวัสดุธรรมชาติแทนกล่องโฟมและถุงพลาสติก หากนำสิ่งที่จะก่อให้เกิดขยะเข้าในแหล่งท่องเที่ยว เช่น ถุงพลาสติก กล่องโฟม ขวด กระป๋อง ควรเก็บคืนออกมาให้มากที่สุด
2) ลดปริมาณการนำเข้าขยะ โดยนำวัสดุอุปกรณ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เช่น จาน ชาม ช้อน แก้ว นอกจากนี้ ให้ระวังการก่อไฟเผาขยะ ในบริเวณแหล่งท่องเที่ยว เพราะจะทำให้เกิดมลพิษและเกิดไฟไหม้อีกด้วย
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก bangkokbiznews