ซีพีเอฟ คว้ารางวัลดีเด่นด้านความยั่งยืน Highly Commended in Sustainability Awards เวที SET Awards 2022 จาก ตลท. สะท้อนความมุ่งมั่นสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแลกิจการที่ดี และผู้มีส่วนได้เสียอย่างรอบด้าน
นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ ได้รับรางวัลดีเด่นด้านความยั่งยืน Highly Commended in Sustainability Awards เวที SET Awards 2022 ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ร่วมกับวารสารการเงินธนาคาร จัดขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 19 เพื่อยกย่อง เชิดชู สร้างความภาคภูมิใจ และเป็นกำลังใจให้แก่บริษัทจดทะเบียน และผู้ที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน
ซึ่งในปี 2565 ซีพีเอฟได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้ได้รับรางวัล SET Awards ในกลุ่มรางวัล Sustainability Excellence ประเภท Highly Commended Sustainability Awards สะท้อน ถึงความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืน โดยคำนึงถึงหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ คือ ประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และบริษัท
เพื่อก้าวสู่วิสัยทัศน์เป็น “ครัวของโลกที่ยั่งยืน” เดินหน้าสร้างความมั่นคงทางอาหาร ทั้งความปลอดภัย และคุณภาพในการผลิตอาหาร การนำหลักสิทธิมนุษยชนมาเป็นพื้นฐานในการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่อุปทาน ปฏิบัติต่อบุคลากร และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างเสมอภาค และเท่าเทียม การนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการกระบวนการทางธุรกิจเพื่อความยั่งยืน
ในปีนี้ บริษัทยังได้ขับเคลื่อนด้านความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญกับการจัดการพลังงานเพื่อความยั่งยืน และมีส่วนร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การสนับสนุนแหล่งน้ำ และดูแลสิ่งแวดล้อม ผ่านการดำเนินโครงการอนุรักษ์ และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ทั้งการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำ และป่าชายเลน การส่งเสริมสถานประกอบการทั่วประเทศของซีพีเอฟเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกต้นไม้ และโครงการปกป้องท้องทะเลและมหาสมุทร เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ซีพีเอฟ มีเป้าหมายสร้างความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทาน สนับสนุนการเติบโตของคู่ค้า และลูกค้า ซึ่งปัจจุบัน มีคู่ค้าธุรกิจ 15,000 ราย เป็นผู้ประกอบการ SME 6,000 ราย โดยในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนถึงปัจจุบัน บริษัทได้ดำเนินโครงการ Faster Payment ช่วยลดเครดิตเทอมให้เอสเอ็มอี ปรับจากที่เคยจ่ายให้ทุก 45-60 วัน ลดเหลือ 30 วัน ช่วยให้สภาพคล่องทางการเงินของเอสเอ็มอีดีขึ้น และดำเนินธุรกิจต่อไปได้
รวมทั้งได้ต่อยอดสู่โครงการ CPFxBBL เสริมสภาพคล่อง เคียงข้างคู่ค้า โดยร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ส่งเสริมคู่ค้าในห่วงโซ่อุปทานให้เข้าถึงแหล่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ
ในปีนี้ ซีพีเอฟ ยังได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน (Thailand Sustainability Investment : THSI) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 สะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืน ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจการตามหลัก BCG (Bio-Circular-Green Economy)
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก bangkokbiznews