พลตรีพัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน)
พลตรีพัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน)
Leader's VisionLifeTOP STORIES

หาดทิพย์ กับหลักการ ‘Sustainable but Profitable Growth’

0

เป็นเวลากว่า 52 ปี ที่บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยยึดมั่นการสร้างความมั่นคงให้กับชุมชน และการรักษาสิ่งแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ ความมุ่งมั่นนี้แสดงให้เห็นจากที่บริษัทฯได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI (Thailand Sustainability Investment) โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 ถึงปี 2563

นอกจาก โคคา-โคลา แล้ว หาดทิพย์ยังเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่าย แฟนต้า สไปรท์ และผลิตภัณฑ์อื่นที่ โคคา-โคลา คัมปะนี (ประเทศสหรัฐอเมริกา) เป็นเจ้าของ ซึ่งมีทั้งเครื่องดื่มอัดลม (Carbonated Soft Drinks) และเครื่องดื่มไม่อัดลม (Non-Carbonated Drinks; Still Beverages) เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้มินิทเมด และน้ำดื่มน้ำทิพย์ เป็นต้น

หาดทิพย์มีโรงงานผลิต 2 แห่ง โดยโรงงานแห่งแรกตั้งอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และโรงงานแห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีขอบเขตการจัดจำหน่ายสินค้าเฉพาะใน 14 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร ระนอง กระบี่ ภูเก็ต พังงา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

หาดทิพย์ กับหลักการ ‘Sustainable but Profitable Growth’

หาดทิพย์ กับหลักการ ‘Sustainable but Profitable Growth’

สำหรับแผน 5 ปีข้างหน้า พลตรีพัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หาดทิพย์จะเน้นหลักการ “Sustainable but Profitable Growth” โดยมุ่งมั่นที่จะใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรจากธรรมชาติ ทรัพยากรมนุษย์ และเงินทุน เป็นต้น บริษัทฯ มองว่าการเพิ่มการใช้พลังงานธรรมชาติในกระบวนการผลิต การขนส่งและด้านอื่นๆ คือ การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และช่วยลดต้นทุนอีกด้วย

โดยหาดทิพย์มีแผนที่จะนำเทคโนโลยีด้านพลังงานธรรมชาติ เช่น โซล่าเซลล์ มาประยุกต์ใช้ในโรงงานที่หาดใหญ่ เพิ่มเติมจากการใช้แหล่งพลังงานนี้อยู่แล้วที่โรงงานพุนพิน รวมถึงแผนการทำโซล่าฟาร์มที่โรงงานพุนพิน ส่วนเทคโนโลยีด้านกระจายสินค้า หาดทิพย์ได้นำปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และ Automation Software ต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการ supply chain เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและมีการจัดกลุ่มลูกค้าที่เหมาะสม (segmentation) เพื่อต่อยอดการทำกำไรและบริหารต้นทุนขององค์กร

หาดทิพย์มองถึงการขยายธุรกิจเครื่องดื่มไปสู่ประเภทอื่นในหมวดหมู่เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ (non-alcoholic ready to drink) นอกเหนือจากประเภทสินค้าที่มีอยู่แล้ว “มีอีกหลาย Category ที่เรายังไม่มี Presence เลย และ Category พวกนี้มีกำไรมาก ไม่ว่าจะเป็น นมถั่วเหลือง Energy Drinks ชา หรือกาแฟ เรามองว่าท้ายที่สุดภายใต้ Umbrella ของ Coca Cola Products เราต้องการที่จะเป็น Total Beverage Company” พลตรีพัชร กล่าว ด้านการเติบโตของธุรกิจส่วนอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจเครื่องดื่ม หาดทิพย์วางแผนที่จะขยายธุรกิจเหล่านี้ให้เติบโตขึ้นโดยไม่จำกัดว่าจะต้องขยายธุรกิจในพื้นที่ภาคใต้ที่เดียว แต่จะครอบคลุมไปทั้งประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย “ท้ายที่สุดเราต้องมีความรับผิดชอบต่อ Stakeholders ทุกคน ตั้งแต่ พนักงาน คู่ค้า ผู้ถือหุ้นและชุมชน”

หาดทิพย์มีนโยบายในการดำเนินธุรกิจที่ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการสร้างผลประกอบการที่ดี บริษัทมีความตระหนักถึงผลกระทบอย่างรุนแรงของภาวะโลกร้อนที่มีต่อโลกในปัจจุบัน จึงมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปลดปล่อยออกมาจากกระบวนการผลิต

ผลิตภัณฑ์ในเครือหาดทิพย์

ผลิตภัณฑ์ในเครือหาดทิพย์

บรรจุภัณฑ์ประเภทขวดแก้วทั้งหมดของหาดทิพย์สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ และผลิตจากวัสดุที่รีไซเคิลมาแล้วโดยเฉลี่ย 30 เปอร์เซ็นต์ บรรจุภัณฑ์ประเภท PET หรือพลาสติกสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์เช่นเดียวกัน และสำหรับบรรจุภัณฑ์ประเภทกระป๋องนั้นทำจากอะลูมิเนียมที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ และผลิตจากอะลูมิเนียมที่ได้ผ่านการรีไซเคิลมาแล้วประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์

สำหรับใน 2563 หาดทิพย์ ได้รับประกาศนียบัตร คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ขององค์กร ทั้ง 2 โรงงาน คือ โรงงานหาดใหญ่ (ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 10,076 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี) และโรงงานพุนพิน (ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 10,839 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี)

Source: Settrade Haadthip

รู้หรือไม่ ? เหรียญโอลิมปิกโตเกียว 2020 มาจากวัสดุรีไซเคิล

Previous article

“ออริจิ้น” จับมือ “GUNKUL” ลุยธุรกิจ Solar Energy รับเมกะเทรนด์พลังงานสะอาด

Next article

You may also like