Fairphone โทรศัพท์รักโลก

ปัจจุบันนี้ภาวะโลกร้อนกำลังเป็นภัยคุกคามมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโลกร้อนล้วนมาจากสิ่งของที่พวกเราอุปโภค บริโภค โดยหนึ่งในตัวการนั้นมาจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คงจะดีไม่น้อยถ้าหากว่าพวกเราจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงช่วยให้ทั้งคนทั้งโลกดีขึ้นพร้อมไปกันได้ โดยจุดตรงนี้คือสิ่งที่ Tessa Wernink และ Bas Van Abel ผู้ก่อตั้ง Fairphone คำนึงถึง ซึ่งที่มาดังกล่าวทำให้โทรศัพท์ของ Fairphone กลายเป็นโทรศัพท์ยี่ห้อหนึ่งที่มีชื่อเสียงด้านความยั่งยืนลำดับต้น ๆ ของโลก ไปดูกันเลยว่า Fairphone เป็นโทรศัพท์ที่รักโลกอย่างไร

Fairphone คืออะไร

Fairphone บริษัทสมาร์ตโฟนจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 2010 และในปี 2013 เป็นปีที่ปล่อย Fairphone รุ่นแรกออกมาสู่ตลาด ปัจจุบันนี้รุ่นล่าสุดคือ Fairphone รุ่น 4 จำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2020 โดยแนวคิดสำคัญของสมาร์ตโฟนรักโลกจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกันนั้นก็คือแคร์มนุษย์และแคร์โลก

Fairphone แคร์โลก

เนื่องมาจากในการออกแบบสมาร์ตโฟนของ Fairphone นั้นจะเป็นในลักษณะของ modular คือสามารถแยกส่วนประกอบของโทรศัพท์ได้ไม่ยาก ชิ้นส่วนอะไหล่เกือบทั้งหมดสามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วยตนเอง ช่วยลดจำนวนครั้งในการส่งซ่อมแซม เพียงแค่สั่งซื้ออะไหล่จากเว็บไซต์ Fairphone พร้อมหนังสือคู่มือ และไขควงแปดแฉก อุปกรณ์แค่นี้ก็พร้อมสำหรับเปลี่ยนอะไหล่ใหม่แล้ว โดยทาง iFixit ให้คะแนนความง่ายในการซ่อม 10 เต็ม10 หรือจะเป็นในกรณีที่ต้องการอัปเกรดอะไหล่เฉพาะส่วนก็สามารถทำได้เช่น โดยในเว็บไซต์จะขายอะไหล่จำนวน 8 ชิ้น ได้แก่ จอแสดงผล แบตเตอรี่ ฝาหลัง พอร์ต USB-C ลำโพง หูฟัง กล้องหลัง และกล้องหน้า นอกจากนี้ยังไม่ต้องกังวลเรื่องความเก่าของซอฟต์แวร์ เนื่องจากมีการรับประกันว่าจะสามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ได้ถึง 5 ปี ด้วยกัน ซึ่งกระบวนการออกแบบข้างต้น จะช่วยทำให้ยืดอายุการใช้งานของโทรศัพท์ รวมไปถึงช่วยให้ทำให้เกิดการรีไซเคิลของอะไหล่ที่ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้ และช่วยลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการสร้างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

นอกจากนี้โดยถ้าหากคุณมีโทรศัพท์เครื่องเก่าที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ก็สามารถส่งไปรีไซเคิลได้ที่ Fairphone เมื่อผ่านกระบวนการจัดทำใบเสนอราคาแล้ว ถ้าพึงพอใจที่จะเข้ากระบวนการรีไซเคิลแล้ว ก็จะได้รับผลตอบแทนในรูปบัตรของรางวัลจากทาง Fairphone

Fairphone แคร์เพื่อนมนุษย์

เนื่องจากประเทศคองโก ในทวีปแอฟริกาใต้ เป็นผู้ผลิตแร่โคลแทน (coltan) รายใหญ่ลำดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งเป็นแร่ดังกล่าวใช้เป็นวัสดุสำคัญของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงโทรศัพท์มือถืออีกด้วย อย่างไรก็ดีนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าเหมืองแร่ที่คองโกบางส่วน มีปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็นการทำเหมืองที่ไม่ได้รับมาตรฐาน สภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่ดี กดขี่ค่าแรง และปัญหาการใช้แรงงานเด็ก โดย Fairphone จะเข้าไปช่วยทำให้การทำเหมืองนั้นมีความเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงในส่วนอื่น ๆ ของห่วงโซ่อุปทานการผลิตโทรศัพท์ก็เข้าไปช่วยปรับปรุงให้ดีขึ้นเช่นกัน อาทิเช่น ขั้นการผลิตสมาร์ตโฟนในประเทศจีน เพิ่มในด้านความปลอดภัย สุขภาพ ค่าตอบแทน และชั่วโมงการทำงานของแรงงาน เพื่อสร้างโทรศัพท์ที่เป็นธรรมและยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ

Fairphone รุ่นที่ 4

โทรศัพท์รุ่นนี้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 11 ใช้ชิปของ Snapdragon 750G (SM7225) ความจุของโทรศัพท์มีให้เลือกด้วยกัน 2 ขนาด คือ 128 GB หรือ 256GB แบตเตอรี่ขนาด 3905 mAh สามารถรองรับชาร์จไว 20W  หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.3 นิ้ว มีกล้องหลังทั้งหมด 2 ตัว โดยกล้องหลังตัวหลักคือกล้องเซนเซอร์ IMX582 ความละเอียด 48MP (f/1.6) กล้องหลังตัวรองเป็นกล้อง Ultrawide ความละเอียด 48MP (f/2.2) ส่วนกล้องหน้าเป็นกล้องเซนเซอร์ IMX576 ความละเอียด 25MP (f/2.2) โทรศัพท์รองรับเครือข่าย 5G ใช้พอร์ต USB Type-C โดยมีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น ถ้าเป็นรุ่น 6GB / 128GB ราคาจะอยู่ที่ 579 ยูโร (ประมาณ 21,000 บาท) ส่วนรุ่น 8GB / 256GB จะมีราคา 649 ยูโร (ประมาณ 23,600 บาท) มีทั้งหมด 3 สี ไม่ว่าจะเป็นเขียว เขียวลายจุด และเทา โดยความพิเศษคือเมื่อซื้อ Fairphone 4 จะแถมฟรีหูฟังเอียร์บัด (Earbuds) 1 ชุด

เรื่องของภาวะโลกร้อนไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไป ถ้าหากว่าพวกเราร่วมมือร่วมแรงกันคนละเล็กละน้อย จะสามารถก้าวข้ามวิกฤตนี้ไปได้แน่นอน เริ่มจากสิ่งของใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์ ดังนั้นสำหรับผู้ที่มองหาโทรศัพท์ใหม่ที่รักโลกแล้ว โทรศัพท์ของ Fairphone ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย แม้ว่าราคาเริ่มต้นจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับค่าซ่อมแซมและช่วงระยะเวลาการใช้งานแล้ว นับว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว

ติดตามข่าวสารและบทความเกี่ยวกับ The Sustain – ธุรกิจและความยั่งยืน พลังงาน ภาวะโลกร้อน ทรัพยากรธรรมชาติ

thesustain.space

Turnoff
นักเขียนอิสระหลากหลายธุรกิจ เขียนคอนเท้นท์ SEO ประสบการณ์มากกว่า 10 ปี turnoffweb.com

น้ำมันปรุงอาหารรักษ์โลก ใช้วิธีการหมัก ใช้พื้นที่น้อยลง ปล่อย CO2 น้อยลง

Previous article

รักแม่ & รักโลกที่สุดด้วย วันแม่ปีบอกรักแม่ในสไตล์รักโลกด้วย

Next article

You may also like

More in Innovation