ใบตองแทนฟอยล์ นวัตกรรมรักษ์โลกจากร้านเสริมสวย

ไอเดียรักษ์โลก ร้านเสริมสวยเมืองตรัง ปิ๊งไอเดีย ใช้ใบตองสดแทนกระดาษฟอยล์ในการทำสีผมบาลายาจ ช่วยลดต้นทุนจาก 1,500 บาทเหลือเพียง 700-1,000 บาทต่อหัว แถมเย็นสบาย ย่อยสลายง่าย สวยไม่แพ้วัสดุเคมี

ร้านเสริมสวยวิภารัตน์ ตั้งอยู่ตรงข้ามปากซอย 13 ถนนวิเศษกุล ใกล้สี่แยกสาริการาม ในเขตเทศบาลนครตรัง ได้กลายเป็นที่พูดถึงในวงการความงามด้วยนวัตกรรมสุดสร้างสรรค์จาก “จ๊ะแมะ” นางสังข์วาลย์ เบ็ญระเหม เจ้าของร้านที่นำใบตองสดมาใช้แทนกระดาษฟอยล์ในการทำสีผมแบบ Balayage เทคนิคการทำสีผมที่ได้รับความนิยมด้วยการไล่ระดับสีจากเข้มไปอ่อนอย่างเป็นธรรมชาติ คำว่า “บาลายาจ” มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “การปัดกวาด” ซึ่งหมายถึงการปัดสีลงบนเส้นผมอย่างอิสระเพื่อให้ได้ลุคที่ดูนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ

จากฟอยล์สู่ใบตอง: นวัตกรรมที่เปลี่ยนเกม

โดยทั่วไป การทำสีผมแบบบาลายาจต้องใช้กระดาษฟอยล์ ซึ่งมีราคาสูงและก่อให้เกิดความร้อนขณะทำสี ทำให้ลูกค้ารู้สึกอึดอัด นางสังข์วาลย์จึงเกิดไอเดียใช้ใบตองสดจากต้นกล้วยที่ปลูกข้างร้านมาเป็นทางเลือก ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เพียงแต่ลดต้นทุนการทำสีจาก 1,500 บาทต่อหัวลงเหลือเพียง 700-1,000 บาท แต่ยังให้ความรู้สึกเย็นสบายจากคุณสมบัติตามธรรมชาติของใบตอง ที่สำคัญ ใบตองย่อยสลายได้ง่าย ไม่ทิ้งขยะที่เป็นภาระต่อสิ่งแวดล้อม ต่างจากฟอยล์ที่ใช้เวลานานในการย่อยสลายและอาจก่อมลพิษหากกำจัดไม่ถูกวิธี

ประโยชน์ของใบตองในการทำสีผม

นางสังข์วาลย์ ระบุว่า ใบตองสดทุกสายพันธุ์กล้วยสามารถนำมาใช้ได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาวัสดุเคมีที่มีราคาแพง ใบตองช่วยรักษาความชุ่มชื้นของเส้นผมระหว่างทำสี และยังลดความเสี่ยงที่สารเคมีจะสัมผัสหนังศีรษะโดยตรง ผลงานที่ออกมาก็สวยงามไม่แพ้การใช้ฟอยล์ ทำให้ลูกค้าหลายรายประทับใจและจองคิวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

นวัตกรรมนี้ไม่เพียงช่วยลดต้นทุนให้ลูกค้าและร้านค้า แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการลดขยะพลาสติกและส่งเสริมความยั่งยืน ตามข้อมูลจาก Greenpeace Thailand การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ใบตอง แทนวัสดุสังเคราะห์สามารถลดปริมาณขยะที่ต้องใช้เวลาย่อยสลายนานถึง 500 ปีลงได้อย่างมาก นอกจากนี้ การใช้ใบตองยังช่วยส่งเสริมเกษตรกรท้องถิ่นที่ปลูกกล้วย และสร้างความตระหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในชุมชนเมืองตรัง

ขอบคุณแหล่งที่มาจาก igreenstory