รู้หรือไม่ กาแฟก็สามารถรีไซเคิลได้นะ

รู้หรือไม่?…กาแฟก็สามารถรีไซเคิลได้นะ

กลิ่นหอมๆของกาแฟเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นเช้าวันใหม่ของใครหลายๆคน จึงไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจร้านกาแฟโผล่ขึ้นมามากมายอย่างทุกวันนี้ ยิ่งถ้าได้กาแฟคุณภาพดี รสชาติตรงใจ ก็ยิ่งทำให้หลายคนหลงใหลในเครื่องดื่มที่ทรงพลังประเภทนี้มากขึ้น ในขณะที่ปริมาณการบริโภคกาแฟเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลกถึง 2,000 ล้านถ้วยต่อวัน แต่ละปีจะมีขยะที่เกิดขึ้นหลังจากการชงกาแฟด้วยเหมือนกันถึงปีละ 200,000 ตันเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะมีการพยายามกำจัดขยะกากกาแฟในหลายๆวิธี แต่เมื่อกากกาแฟเหล่านี้สลายตัวก็จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศทำให้เกิดภาวะโลกร้อนตามมา แล้วมีวิธีไหนอีกบ้างที่จะเปลี่ยนขยะกากกาแฟเหล่านี้ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นประโยชน์ต่อผู้คนในสังคม

การกำจัดกากกาแฟอย่างสร้างสรรค์เริ่มต้นขึ้นโดยบริษัท Bio-Bean ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพคนรุ่นใหม่จากประเทศอังกฤษได้คิดค้นวิธีที่จะเปลี่ยนกากกาแฟกว่า 7,000 ตันให้กลายมาเป็นพลังงานเชื้อเพลิงไบโอดีเซลเพื่อใช้เติมรถขนส่งสาธารณะที่กรุงลอนดอนในช่วงเริ่มต้น แทนการนำกากกาแฟไปกลบดินให้ย่อยสลายเองตามธรรมชาติ เพราะการทำเช่นนั้นยิ่งเป็นการสร้างคาร์บอนไดออกไซด์ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น และในระยะต่อมาได้มีการนำกากกาแฟไปเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล  โดยนำไปผลิตเป็นถ่านเพื่อใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรมในเชิงพาณิชย์ เนื่องจากเมื่อมีการเผาไหม้ พลังงานจากกากกาแฟจะให้ความร้อนได้ยาวนานกว่าไม้

ในการผลิต   B20 Coffee-Bio-Diesel บริษัท Bio-Bean ได้เริ่มต้นโปรเจ็คจากการระดมทุนสูงถึง 5 ล้านดอลล่าร์ โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่างเชลล์(Shell)  ซึ่งจากผลการวิจัยพบว่า กากกาแฟที่เหลือทิ้งจำนวน 10 กิโลกรัม สามารถนำไปผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซลล์ได้ถึง 2ลิตรเลยทีเดียว ในกระบวนการผลิตสามารถทำได้โดยการนำขยะกากกาแฟมาทำให้แห้ง จากนั้นให้นำมาปรับสภาพเพื่อลดกรดไขมันอิสระ  เพราะถ้าหากไม่นำกรดไขมันอิสระออกไปจะทำให้เกิดสบู่ขึ้นทันที  และเมื่อทำการปรับสภาพของกากกาแฟเรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องผ่านกระบวนการการสกัดทางเคมี จนกระทั่งทำให้เกิดเป็นน้ำมันไบโอดีเซลดิบออกมา แต่ยังไม่สามารถนำไปใช้งานได้ จะต้องทำให้น้ำมันไบโอดีเซลบริสุทธิ์ไร้สารปนเปื้อนเสียก่อน จนในที่สุดกลายมาเป็นน้ำมันไบโอดีเซลบริสุทธิ์ที่สกัดมาจากกากกาแฟ จึงจะสามารถนำไปเติมในเครื่องยนต์ได้

ถึงแม้ว่าในกระบวนการแปรกากกาแฟให้เป็นนำมันไบโอดีเซลนั้น จะมีต้นทุนที่สูงและใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่ราคาค่อนข้างแพง จึงได้มีการศึกษาและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อหาวิธีการที่จะช่วยลดต้นทุนของสารเคมีที่ใช้ให้มีความคุ้มค่ามากที่สุดและสามารถใช้งานได้จริง โดยในปี พ.ศ. 2560 ได้เริ่มนำน้ำมันไบโอดีเซลจากกากกาแฟไปเติมในรถขนส่งสาธารณะในประเทศอังกฤษอย่างจริงจัง แล้วพบว่าสามารถใช้งานได้ดีไม่แพ้น้ำมันทั่วๆไป ซึ่งได้มีการประมาณการว่า กากกาแฟประมาณ 2.6 ล้านถ้วย จะสามารถสกัดเป็นเชื้อเพลิงได้เพียงพอต่อการใช้งานของรถบัส 1 คัน ได้นานถึง 1 ปีเลยทีเดียว ซึ่งการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลในลักษณะนี้ แต่เดิมทำมาจากข้าวโพด แต่ท้ายที่สุดแล้วพบว่า ข้าวโพดไม่ใช่วัตถุดิบขั้นสุดท้าย แถมยังเป็นการแย่งแหล่งอาหารของคนอีกด้วย จึงหันมาใช้กากกาแฟที่เหลือแทน

ในส่วนของกากกาแฟที่นำมารีไซเคิลเพื่อผลิตเป็น “เชื้อเพลิงแข็ง” ในรูปแบบของถ่าน ก็ให้ประสิทธิภาพในการเผาไหม้ที่สูงด้วยเช่นเดียวกัน โดยสามารถให้ความร้อนที่มากกว่าถ่านที่เป็นไม้ถึง 20% ซึ่งได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในครัวเรือนและในภาคอุตสาหกรรม  ไม่เพียงเท่านั้นขยะจากกากกาแฟยังสามารถแปรรูปเป็นเม็ดพลาสติกชีวภาพผ่านเครื่องอบแห้งและกระบวนการกรั่นกรองเพิ่มเติม จนกระทั่งสามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้อีกด้วย ในการเผาไหม้จากกากกาแฟถึงแม้จะก่อให้เกิดสาร ซึ่งเป็นที่มาของภาวะเรือนกระจกอันเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน แต่ก็สามารถลดการปล่อยมลพิษลงได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับพลังงานเชื้อเพลิงอื่นๆและเมื่อเทียบกับการฝังกลบในดิน

ใครจะไปคิดว่ากากกาแฟธรรมดาๆที่เหลือทิ้งจากการชงกาแฟรสชาติอร่อยๆจะสามารถนำไปรีไซเคิล แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆที่สามารถใช้งานได้จริง ทั้งยังใช้เป็นพลังงานทดแทนทางเลือกใหม่ ที่แฝงไว้ซึ่งแนวคิดของการรักษ์โลก นับเป็นการใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่าและนำมาซึ่งคุณประโยชน์มหาศาลอย่างแท้จริง

 ติดตามข่าวสารและบทความเกี่ยวกับ The Sustain – ธุรกิจและความยั่งยืน พลังงาน ภาวะโลกร้อน ทรัพยากรธรรมชาติ

thesustain.space