ภูเขาไฟระเบิดที่ Tonga

ถอดรหัส เหตุภูเขาไฟระเบิดที่ Tonga

เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุภูเขาไฟใต้ทะเลในเมืองนูกูอาโลฟา ประเทศตองการะเบิด จนปรากฏเป็นปล่องควันขนาดใหญ่ลอยปกคลุมทั่วมหาสมุทรแปซิฟิก อีกทั้งยังส่งผลกระทบรุนแรงไปอีกหลายประเทศรอบแนวมหาสมุทร จึงมีคำเตือนภัยสึนามิล่วงหน้า อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ปะทุครั้งแรกของภูเขาไฟลูกนี้ และการปะทุยังทำให้ผืนดินบางส่วนหายไปอีกด้วย

ภูเขาไฟระเบิดครั้งแรกในตองกา

ย้อนกลับไปในปี 2014 ได้เกิดเหตุภูเขาไฟใต้ท้องทะเลปะทุขึ้นบริเวณกึ่งกลางเกาะ Hunga Tonga และเกาะ Hunga Ha’apai เกาะทั้งสองแห่งตั้งอยู่ไม่ห่างกันมากนักทางตอนเหนือของประเทศตองกา ต่อมาในปี 2015 ก็เกิดการปะทุขึ้นอีกครั้ง แต่รุนแรงกว่าเดิม เกิดเป็นขี้เขม่าและขี้เถาลอยสูงขึ้นไปกว่า 9 กิโลเมตร และตกลงมาทับถมกันกลายเป็นแผ่นเดินเชื่อมระหว่างทั้งสองเกาะ ซึ่งนักธรณีวิทยาก็คาดการณ์ล่วงหน้าว่าบริเวณพื้นที่ถูกทับถมนี้จะมีอายุได้ไม่เกิน 30 ปี เพราะถูกน้ำทะเลกัดเซาะไปเรื่อย ๆ

การกลับมาของภูไฟระเบิดที่รุนแรงและรวดเร็ว

ผ่านไปแค่เพียง 7 ปี ก็เกิดภูเขาไฟระเบิดขึ้นจริง ๆ ซึ่งแรงส่งปล่องควันระเบิดสูงถึง 30 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาไม่นานเพียง 10 นาทีเท่านั้นและจบลง นั่นเองให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวหายไปทันที แม้ว่าการระเบิดครั้งนี้จบลงอย่างรวดเร็ว แต่ก็ถือว่าเป็นภูเขาไฟระเบิดที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปีก็ว่าได้

สาเหตุที่ทำให้การระเบิดครั้งนี้รุนแรง

การระเบิดที่รุนแรงคาดว่ามาจากแรงดันจำนวนมากและแก๊สที่อัดแน่นอยู่ภายในแมกมาที่เกิดการแตกร้าวออกมาอย่างฉับพลัน ซึ่งแก๊สที่ถูกกักอยู่ในนั้นขยายตัวอย่างแรงจนทำให้แมกมาระเบิดเป็นชิ้น ๆ อีกทั้งตัวปล่องภูเขาไฟอยู่ใต้ระดับผิวน้ำทะเลประมาณ 200 เมตร เป็นระดับความลึกที่เหมาะแก่การระเบิด หากปล่องภูเขาไฟอยู่ลึกกว่านั้นก็จะสามารถควบคุมความแรงของระเบิดได้

ภูเขาไฟระเบิดรุนแรงแต่ทำไมตองกาถึงรอด

ด้วยความแรงของภูเขาไฟที่ระเบิดและกินพื้นที่ไปมากขนาดนั้น รวมถึงส่งแรงสะเทือนไปยังบริเวณประเทศโดยรอบ แต่ทำไมตองกาถึงรอดมาได้ ทั้งที่ความแรงนั้นสามารถทำลายประเทศทั้งประเทศได้เลย นั่นเป็นเพราะแนวประการัง บึงน้ำเค็ม และแนวธรรมชาติอื่น ๆ อาจจะมีส่วนช่วยในการปกป้องบางส่วนของตองกา และในขณะเดียวกันก็ทำให้มีคลื่นลมมากกว่าเดิมในพื้นที่อื่น รวมถึงการได้รับสัญญาณเตือนจากปฏิกิริยาของภูเขาไฟที่เพิ่มมากขึ้นในวันก่อนที่จะมีการระเบิด และเสียงระเบิดที่ดังมาก ทำให้พากันอพยพคนได้ไว

จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปหลังการเกิดภูเขาไฟระเบิดครั้งนี้

ผลกระทบที่เกิดแน่ ๆ จากเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดครั้งนี้คือ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ภูเขาไฟมีการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์และไนโตรเจนออกไซด์ เมื่อก๊าซสองตัวนี้ทำปฏิกิริยากับน้ำและออกซิเจนในชั้นบรรยากาศ จะเกิดเป็นฝนกรด ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายให้แก่ผลผลิตทางการเกษตร อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบต่อประเทศเพื่อนบ้านอย่างฟิจิและประเทศอื่น ๆ โดยรอบ นอกจากนี้ สิ่งมีชีวิตที่อยู่ตามแนวฝั่งก็ยังได้รับผลกระทบอีกด้วย ปราการทางธรรมชาติที่ถูกทำลายส่งผลให้เกิดภาวการณ์กัดเซาะชายฝั่งในอัตราเร่งที่เร็วยิ่งขึ้น

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งแวดล้อมอย่างแนวธรรมชาติสำคัญมากขนาดไหน เพราะหากไม่มีสิ่งเหล่านี้ เวลานี้ตองกาคงหายไปแผนที่โลกแล้วล่ะค่ะ นั่นจึงถึงเวลาที่เราควรหันกลับมาดูแลและปกป้องธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อป้องกันภัยธรรมชาติที่สามารถเกิดได้ทุกเมื่อ โดยที่มนุษย์เราก็ไม่สามารถหยุดยั้งมันได้ เพียงแต่เราสามารถป้องกันพื้นที่เพื่อลดความเสียหายนั้นได้

ติดตามข่าวสารและบทความเกี่ยวกับ The Sustain – ธุรกิจและความยั่งยืน พลังงาน ภาวะโลกร้อน ทรัพยากรธรรมชาติ

thesustain.space

Turnoff
นักเขียนอิสระหลากหลายธุรกิจ เขียนคอนเท้นท์ SEO ประสบการณ์มากกว่า 10 ปี turnoffweb.com

เงื่อนไขสิ่งแวดล้อม 7 ข้อ ที่ผู้ประกอบกิจการโรงงานยางพาราต้องปฏิบัติ

Previous article

ทำความรู้จัก BlueCycle นวัตกรรมสร้างสรรค์สู่ความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม

Next article

You may also like

More in Bitesize