อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับ Climate Change ในแวดวงความงามคือข่าวของบริษัท Estée Lauder ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นบริษัทความงามรายแรกที่เข้าร่วมโครงการ EV100 ของ Climate Group และตั้งเป้าจะมีรถขนส่ง EV ที่ใช้ในองค์กรของแบรนด์ภายในปี 2030 ซึ่งนี่เป็นภารกิจที่แสดงจุดยืนด้านสิ่งแวดล้อมที่จะผันเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า 100% เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อีกทางหนึ่ง
สำหรับโครงการ EV100 ของ Climate Group นั้นเป็นโครงการระดับโลกที่ริเริ่มโดยองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรระหว่างประเทศ ซึ่งทำการรวบรวมบริษัทต่างๆ ที่มีความมุ่งมั่นเดียวกันในการจะสร้างการขนส่งด้วยพลังงานไฟฟ้าให้ได้ภายในปี 2030 ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจต่างๆ จะต้องดำเนินการในการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV อย่างสมัครสามัคคี
การร่วมมือกันในโครงการสำคัญระดับโลกนี้ เป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยลดการปล่อยมลพิษของบริษัท ซึ่งการจะเปลี่ยนผ่านไปใช้ยานยนต์ไฟฟ้า 100% ให้ได้ตามเป้า จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใน Scope 1 ของ ELC ได้อย่างมาก (The Estée Lauder Companies)
Nancy Mahon รองประธานอาวุโสของ ELC กล่าวว่า “บริษัท Estée Lauder มีความมุ่งมั่นเต็มที่ที่จะช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตคาร์บอนต่ำ การใช้พลังงานไฟฟ้าในยานยนต์ของบริษัท ถือเป็นก้าวต่อไปที่สำคัญ อันจะนำไปสู่เส้นทางแห่งความยั่งยืน ในฐานะบริษัทความงามที่มีชื่อเสียงแห่งแรกที่เข้าร่วมโครงการ EV100 ระดับโลก ความมุ่งมั่นของบริษัท Estée Lauder ต่อ EV100 จะช่วยยกระดับความคิดริเริ่มและกระตุ้นให้บริษัทต่างๆ หันมามุ่งมั่นที่จะใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน”
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก happi