สารเคมีจาการทำสีผมไม่ได้ส้่งผลแค่กับเส้นผมเท่านั้น แต่ยังส่งผลกับหนังศีรษะของเรา ช่างทำผม และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย Davines แบรนด์แฮร์แคร์รักษ์โลกที่ให้ความสำคัญเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ได้ถ่ายทอดแนวคิด Sustainable Beauty ผ่านแฮร์โชว์บนเวทีแฟชั่นวีค
แนวโน้มเทรนด์ Sustainability ในปัจจุบัน ทั่วโลกให้ความสำคัญ เนื่องจากความรุนแรงของสภาวะโลกร้อน หรือ Climate change ซึ่งผู้นำโลกกว่า 193 ประเทศให้ความสำคัญและลงนามสนธิสัญญาร่วมกันในการกอบกู้โลกในอีก 8 ปีข้างหน้าในปี 2030 โดยมีเป้าหมายในการบรรลุการพัฒนาความยั่งยืน 17 ข้อ เพื่อหยุดยั้งสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับโลกซึ่งจะส่งผลกระทบถึงเจเนอเรชั่นต่อไป
Climate change ที่กำลังจะเผชิญอีกไม่เกิน 7 ปีข้างหน้านี้ จะมีความรุนแรงไม่ต่ำกว่า 5 เท่า ผู้คนจะล้มตายไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านคน ประมาณ 50% ของประชากรโลกจะได้รับผลกระทบจากการไม่มีที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในฐานล่างของสังคม หรือ Bottom of pyramid และเป็นเทรนด์ที่ไม่ใช่เฉพาะภาครัฐ แต่ต้องเป็นการรวมพลังจากทุกคนในทุกภาคส่วนของสังคมที่ต้องช่วยกันกอบกู้โลก
Davines ดาวิเนส เป็นแบรนด์ที่ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
และเป็นแรงบันดาลให้ธุรกิจอีกหลาย ๆ แบรนด์ ที่มีเป้าหมายในการทำธุรกิจโดยไม่ได้หวังผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อโลกใบนี้อีกด้วย ซึ่ง Davines ได้ร่วมมือกับโครงการ 1 % for the Planet โดยบริจาคเงินจำนวน 50,000 ยูโร เพื่อสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของสถาบันโรเดล เพื่อสนับสนุนการเกษตรอินทรีย์แบบปฏิรูป และมูลนิธิ Slow Food เพื่อสนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพ และในประเทศไทยจะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ WE STAND/for regeneration และดาวิเนส เอสเซนเชี่ยล แฮร์แคร์ 5% ร่วมสมทบทุนให้กับโครงการพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่ดินมูลนิธิชัยพัฒนา จังหวัดนครสวรรค์
มร. ร๊อดเดอริก เชียง ประธานบริหาร บริษัท อีไอจี เดอร์มอล เวลเนส กรุ๊ป กล่าวถึงพันธกิจของแบรนด์ Davines (ดาวิเนส) ที่ต้องการสร้างความตระหนักในเรื่องการรับผิดชอบ และตอบแทนสังคมเสมอมา ว่า “ดาวิเนส ในฐานะผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ใส่ใจและเคารพต่อสิ่งแวดล้อม ที่ได้รับการรับรองจาก Certified B Corporation ได้เปิดตัวโครงการริเริ่มทางสังคมและสิ่งแวดล้อมครั้งแรก ภายใต้ชื่อ We Sustain Beauty ที่เป็นดั่งพันธะสัญญาของเรา
สำหรับการเคลื่อนไหวเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเราที่จะผสมผสานความงาม และการเกษตรอินทรีย์ปฏิรูปที่เพาะปลูกจากแหล่ง Slow Food Presidium เข้าด้วยกัน โดยคัดสรรส่วนผสมที่มีคุณภาพจากธรรมชาติ และเลือกใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อรับประกันความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์กว่า 90 ประเทศทั่วโลก ซึ่งโครงการ We Sustain Beauty ถือเป็นพันธกิจของดาวิเนส ที่สะท้อนความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อมในการเป็นผู้บุกเบิกในเรื่องความยั่งยืนที่หยั่งรากลึกของแบรนด์”
ฐิติภูมิ วงศ์เกียรติขจร General Manager EIG Dermal Wellness Thai กล่าวถึงจุดยืนของดาวิเนส ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้เทคโนโลยี ตลอดจนส่วนผสมต่าง ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
และลดการใช้สารเคมี รวมทั้งรับผิดชอบในเรื่องของแพคเกจจิ้ง ที่เป็นกล่องทำจากกระดาษรีไซเคิล ส่วนพลาสสติกก็สามารถย่อยสลายได้ และมีการรับคืนมารีไซเคิล อีกทั้งยังเชื่อมโยงอุตสาหกรรมแฟชั่นให้เอื้อเข้ากับการเกษตรแบบอินทรีย์ที่นำมาใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีแคมเปญต่าง ๆ ที่ร่วมกับผู้บริโภค และร้านซาลอนชั้นนำ เพื่อเป็นการลดปริมาณขยะ ไม่ว่าจะเป็น รณรงค์ในการนำแพคเกจจิ้งที่เป็นขวดพลาสติกและหลอดสี ส่งกลับมาคืนเพื่อนำไปเข้าสู่กระบวนรีไซเคิล หรือทำลายอย่างถูกวิธี
“สำหรับก้าวต่อไปของดาวิเนส ก็เป็นเป้าหมายเดียวกับสหประชาชาติที่ต้องการสผลักดันเรื่อง Net zero emissions ในปี 2030 ซึ่งเราได้นำมาเป็นนโยบายในการดำเนินธุรกิจของดาวิเนสที่มุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่รักษาสิ่งแวดล้อม สำหรับก้าวต่อไปของดาวิเนส ก็เป็นเป้าหมายเดียวกับสหประชาชาติที่ต้องการผลักดันเรื่อง Net zero emissions ซึ่งเราได้นำมาเป็นนโยบายในการดำเนินธุรกิจของดาวิเนสที่มุ่งมั่นในการสร้างความงามที่ยั่งยืนให้แห่โลกของเรา”
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก www.davines.com