BMW ประกาศก้าวสำคัญของบริษัทอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้บีเอ็มดับเบิลยูได้เลิกผลิตรถยนต์น้ำมันในประเทศเยอรมนีเป็นที่เรียบร้อย เพื่อจะหันมาพัฒนาและผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว และรถสันดาปของ BMW จะกลายเป็นของหายาก
BMW เริ่มเข้าสู่วงการยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว ประกาศเลิกผลิตรถสันดาปหรือรถน้ำมัน การผลิตรถสันดาปด้วยเครื่องยนต์ V8 ถูกประกอบที่โรงงานในมิวนิกในเดือนพฤศจิกายน 2023 ซึ่งปิดตำนาน 60 ปีของการผลิตเครื่องยนต์สันดาปในมิวนิก
บีเอ็มดับเบิลยูได้เริ่มเปลี่ยนมาผลิต BMW i4 รถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2021 และ New Class (Neue Klasse) จะเปิดสายการผลิตตั้งแต่ปี 2026 และทาง BMW ได้ลงทุนประมาณ 400 ล้านยูโรในการแปลงสายการผลิตเครื่องยนต์สู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
พนักงานกว่า 1,200 คนที่เคยทำงานด้านเครื่องยนต์ จะได้รับการฝึกอบรมใหม่และนำไปใช้งานในพื้นที่อื่นๆ ในอนาคต ไม่ว่าจะที่โรงงานในมิวนิกหรือที่สถานที่อื่นๆ ของบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งสภาแรงงานยินดีต่อการตัดสินใจและการลงทุนมูลค่าหลายล้านยูโรในปี 2563 และกล่าวถึง BMW ว่า “เป็นแบบอย่างสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จัดขึ้นอย่างประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมของเยอรมนี”
ผู้อยู่อาศัยในเขตเทศบาล Strasskirchen ของเยอรมนียังได้ลงประชามติว่า BMW ควรได้รับอนุญาตให้สร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่ตามแผนที่นั่น ในอนาคต บีเอ็มดับเบิลยูจะประกอบเซลล์แบตเตอรี่ที่ส่งมอบเป็นชุดแบตเตอรี่พร้อมติดตั้งที่ส่วนกลางของไซต์งาน จากนั้นจึงแจกจ่ายให้กับโรงงานรถยนต์ที่อยู่ใกล้เคียง
สรุปได้ว่าการที่ BMW ออกมาประกาศเลิกผลิตรถสันดาปหรือน้ำมันทำให้เราเห็นได้ว่า แผนการพัฒนาโครงข่าย รถยนต์ไฟฟ้า ที่จะเกิดขึ้นในปี 2030 อาจเกิดขึ้นได้เร็วกว่าที่คิด
ซึ่งใน 3-5 ปีนี้เราจะได้เห็นการพัฒนาของ รถยนต์ไฟฟ้า ที่รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม และนั่นทำให้ผู้ใช้มีโอกาสเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้มากขึ้น เชื่อว่าการที่ค่ายรถยนต์ยุโรปยักษ์ใหญ่หันมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว จะทำให้เกิดแรงขับเคลื่อนและทำให้เจ้าอื่นๆหันมาเร่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก springnews