Apple เผยโฉม Apple Watch ใหม่ ผลิตภัณฑ์แรกที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน Carbon Neutral ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศในปี 2030 ซึ่งเป็นผลลัพธ์ของการทำงาน และการพัฒนาด้านนวัตกรรมอย่างจริงจังเป็นเวลาหลายปี ทั่วทั้งบริษัทและซัพพลายเชนทั่วโลก รวมถึงการใช้พลังงานลมและแสงอาทิตย์

สำหรับ Apple ได้ใช้แนวทางชัดเจนและเข้มงวดในการขจัดคาร์บอนออกจากผลิตภัณฑ์ ซึ่งให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจาก 3 แหล่งที่สำคัญที่สุด ได้แก่ พลังงานไฟฟ้า วัสดุ และการขนส่ง โดยหลังจากลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ลงให้มากที่สุดแล้ว Apple จะใช้คาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงจากโครงการด้านธรรมชาติ เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ยังคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยโซลูชันที่มีอยู่

Carbon Neutral ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างน้อย 75%

Apple Watch ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แรกของ Apple ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน Carbon Neutral ได้ทำตามเงื่อนไขที่เข้มงวด ดังนี้

  • การใช้พลังงานไฟฟ้าสะอาด 100% ในการผลิต และการใช้งานผลิตภัณฑ์
  • การใช้วัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุหมุนเวียน 30% ของน้ำหนัก
  • การขนส่งที่ไม่ใช้การขนส่งทางอากาศ 50%

โดยความพยายามต่างๆ เหล่านี้ รวมกันแล้วส่งผลให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่นลดลงอย่างน้อย 75%

กล่าวได้ว่า Apple Watch ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนทุกเครื่อง ซึ่งรวมถึงรุ่น Series 9 และ SE เมื่อจับคู่กับสายแบบ Sport Loop ใหม่ และ Apple Watch Ultra 2 เมื่อจับคู่กับสายแบบ Trail Loop หรือ Alpine Loop ใหม่ ได้รับการรับรองโดย SCS Global Services ซึ่งเป็นผู้นำในด้านมาตรฐานและการรับรองด้านสิ่งแวดล้อม

บุกเบิกการใช้วัสดุรีไซเคิล

Apple ได้บุกเบิกการใช้วัสดุรีไซเคิลที่สำคัญหลายอย่างในผลิตภัณฑ์ของตนเอง ด้วยวิศวกรรมผลิตภัณฑ์ระดับโลก และเพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อโลกให้มากยิ่งขึ้นไปอีก Apple กำลังจะยุติการใช้หนังสัตว์ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ รวมถึงอุปกรณ์เสริมสำหรับ iPhone และสาย Apple Watch โดยบริษัทจะแทนที่หนังสัตว์ด้วยสิ่งทอแบบใหม่ที่เรียกว่า FineWoven ซึ่งเป็นผ้าทวิลที่สวยงามและทนทาน ทำจากวัสดุซึ่งรีไซเคิลมาจากของใช้ในชีวิตประจำวัน 68%

carbon Neutral

วัสดุอย่าง FineWoven มีผิวที่ดูมันวาวเล็กน้อย และให้สัมผัสที่นุ่มนวลคล้ายหนังกลับ เป็นวัสดุที่ใช้กับเคสและกระเป๋าสตางค์ MagSafe สำหรับ iPhone รวมถึงสายแบบ Magnetic Link และ Modern Buckle สำหรับ Apple Watch

ขนส่งทางเรือปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่า

การขนส่งผลิตภัณฑ์ทั่วโลก มีส่วนทำให้เกิดคาร์บอนฟุตพรินต์โดยรวมของ Apple ราว 9 เปอร์เซ็นต์ บริษัทกำลังเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งผลิตภัณฑ์จำนวนมาก ไปเป็นการขนส่งที่ทำให้เกิดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าการขนส่งทางอากาศ อย่างเช่นการขนส่งทางเรือ หรือทางรถไฟ ระเบียบวิธีวิจัยด้านคาร์บอนฟุตพรินต์ของ Apple แสดงให้เห็นว่า การขนส่งผลิตภัณฑ์เดียวกันทางเรือ ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าการขนส่งทางอากาศถึง 95%

สำหรับ Apple Watch รุ่นที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ทั้งตัวนาฬิกาและสาย บริษัทจะขนส่งอย่างน้อย 50% ของน้ำหนักรวมทั้งหมดของผลิตภัณฑ์ โดยไม่ใช้การขนส่งทางอากาศ ซึ่งตัดลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการขนส่งโดยรวมลงได้เกือบครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ของ Apple Watch รุ่น Series 9 และ SE ทั้งหมดยังได้รับการออกแบบใหม่เพื่อความกะทัดรัด ด้วยรูปทรงที่เพรียวบางและเล็กลง ซึ่งทำให้สามารถขนส่งอุปกรณ์ได้เพิ่มขึ้น 25% ในแต่ละครั้ง

นอกจากนี้ Apple ยังได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่ใน App Store ชื่อว่า “พยากรณ์โครงข่ายไฟฟ้า” ซึ่งจะช่วยแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบ เมื่อมีพลังงานสะอาดที่สามารถใช้งานได้สำหรับโครงข่ายพลังงานของตนเอง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจได้ว่าเวลาใดที่ควรใช้ไฟฟ้า.

ขอบคุณแหล่งที่มาจาก thairath

เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สร้างนอร์เวย์ให้กลายเป็นผู้นำด้านการประมงและความยั่งยืนของโลก

Previous article

รู้หรือไหม ใช้ถุงผ้าแทนพลาสติกกี่ครั้ง ถึงจะช่วยโลกได้อย่างแท้จริง

Next article

You may also like

More in Bitesize