เปิดประวัติ วันวาฬโลก 19 กุมภาพันธ์ 2023 วาฬยังเสี่ยงสูญพันธุ์จากการคุกคามของมนุษย์ รู้หรือไม่วาฬยังคงถูกล่าเชิงพาณิชย์ แม้เราไม่จำเป็นต้องกินวาฬแล้วก็ตาม

มหาสมุทรสีฟ้าอันกว้างใหญ่ที่กว้างกว่าพื้นที่อยู่อาศัยของมนุษย์หลายเท่า เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง “วาฬ” สิ่งมีชีวิตใต้น้ำขนาดใหญ่สุดมหัศจรรย์ แถมยังเป็นมิตรต่อทุกสรรพสิ่งบนโลก แต่เห็นใจดีขนาดนี้ ก็ยังเป็นสัตว์ที่ถูกคุกคามบ่อยที่สุด โดยเฉพาะการถูกรุกรานโดยมนุษย์

นานหลายศตวรรษ ที่วาฬกลายเป็นห่วงโซ่หนึ่งของมนุษย์ที่ต้องการแสวงหาอาหารและเงินจากสิ่งมีชีวิตยักษ์ใหญ่นี้ ปัญญาที่เลิศเลอกว่าคืออุดมคติยึดมั่นของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ ที่เชื่อมั่นว่าตนจะทำอะไรต่อสิ่งที่ด้อยกว่าก็ได้

วาฬผู้แสนอารีย์เริ่มลดจำนวนลง อันเนื่องมาจากการการล่าและการสูญเสียที่อยู่อาศัย ด้วยเหตุนี้ ในปีพ.ศ. 2523 วันวาฬโลกจึงได้เกิดขึ้น ณ เมือง เมาอิ รัฐฮาวาย (Maui, Hawaii) ความคิดนี้ริเริ่มมาจาก Greg Kauffman ผู้ก่อตั้ง Pacific Whale Foundation

สาเหตุของการก่อตั้งวันวาฬโลก มาจากที่เกร็กมองเห็นว่า วาฬหลังค่อมที่เคยว่ายน้ำเล่นอยู่นอกชายฝั่งของเกาะฮาวายเริ่มลดจำนวนหายไป เขาตระหนักมาหลายปีว่าวาฬหลังค่อมเหล่านี้กำลังเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากมนุษย์ และเขาไม่อยากให้พวกมันหายไปจากโลก

ตั้งแต่นั้นมา วาฬกลายเป็นไฮไลท์หลักของเทศกาล Maui Whale กิจกรรมเดินขบวนพาเหรดที่จะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี กิจกรรมฟรีที่ผู้คนสามารถเพลิดเพลินไปกับขบวนพาเหรดที่หลากหลายและการแต่งตัวสุดอลังการ และยังเป็นเทศกาลที่รวบรวมเอากิจกรราสำหรับเด็กและเทศกาลดนตรีจากผู้มีชื่อเสียงชาวฮาวายและนานาชาติมารวมตัวกันได้อีกด้วย

วันวาฬโลก จะเฉลิมฉลองกันในทุก ๆ วันอาทิตย์ที่สามของเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี มีขึ้นเพื่อให้ผู้คนตระหนักรู้ถึงความสำคัญของสัตว์น้ำขนาดใหญ่ที่มีต่อระบบนิเวศ อีกทั้งวันนี้ยังเป็นวันที่เราจำเป็นต้องออกมาเรียกร้องให้ดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อทำให้บ้านของวาฬปลอดภัยมากยิ่งขึ้นสำหรับการใช้ชีวิตและการอยู่อาศัย

วันวาฬโลก 19 กุมภาพันธ์ เปิดประวัติทำไมปัจจุบันถึงยังคงโดนมนุษย์ล่าอยู่

รู้หรือไม่? ศตวรรษนี้ วันวาฬโลก ยังคงถูกล่าเชิงพาณิชย์อยู่

การล่าวาฬเชิงพาณิชย์มีมานานหลายศตวรรษแล้ว ในยุคที่คนล่าเพื่อเอาน้ำมันจากวาฬไปทำเทียนเพื่อสร้างแสงสว่าง และนำไปทำเป็นอาหารเพื่อคลายความหนาว แต่เมื่อโลกก้าวหน้าขึ้นการล่าวาฬมีลดน้อยลง แต่ประเพณีล่าวาฬยังคงไม่ได้สูญหายไปไหน

การล่าวาฬเชิงพาณิชย์ในปัจจุบันยังคงดำเนินต่อไปในไอซ์แลนด์ ญี่ปุ่นและนอร์เวย์ วาฬกว่า 1,000 ตัวยังคงถูกล่าต่อไปเพื่อจุดประสงค์ทางการค้า

สหรัฐอมเริกาและประเทศสมาชิกคณะกรรมาธิการการล่าวาฬ (IWC) พยายามอย่างยิ่งในการเกลี้ยกล่อมไอซ์แลนด์ ญี่ปุ่นและนอร์เวย์ให้ยุติการล่าวาฬลงเป็นเวลากว่าหลายปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในปี 2019 ญี่ปุ่นเลือกที่จะเดินหนีออกมาและดำเนินการล่าวาฬเชิงพาณิชย์ต่อไปในน่านน้ำของตน ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของต่างประเทศ

นอกจากวาฬจะต้องเผชิญหน้ากับการล่าในน่านน้ำดังกล่าวแล้ว การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศก็ส่งผลให้พวกมันสูญเสียบ้านเหมือนกัน มหาสมุทรมีอุณหภูมิสูงขึ้นและเราก็สูญเสียน้ำแข็งในทะเลอาร์กติกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อแหล่งที่อยู่อาศัยและอาหารของวาฬ เพราะสัตว์ขนาดเล็กมีแนวโน้มเคลื่อนย้ายหรืออพยพหนีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ลม และกระแสน้ำในมหาสมุทรที่ไม่เอื้อต่อการอยู่อาศัย

นอกจากนี้ พวกมันยังต้องเผชิญกับมลพิษทางน้ำละทางเสียงจากกิจกรรมของมนุษย์ด้วย มาช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมกันเยอะ ๆ นะ

ขอบคุณแหล่งที่มาจาก springnews

โลกร้อนทำน้ำแข็งละลาย น้ำทะเลร้อนขึ้นกระทบทั้งมนุษย์และสัตว์

Previous article

แลกเงินต่างประเทศอย่างไรดี

Next article

You may also like

More in Bitesize