งานวิจัยชี้ ผู้ไม่สูบบุหรี่ถึง 20% หรือกว่า 300,000 รายต่อปี เสี่ยงมะเร็งปอดจากควันมือสอง และ PM2.5 โดยเฉพาะในเอเชียที่พบสูงถึง 50% ไทยพบผู้ป่วยใหม่ 57 รายต่อวัน

ทีมนักวิจัยออสเตรเลียและสหราชอาณาจักรเผย เผยแพร่การศึกษาในวารสารเจอร์นัล ออฟ ดิ อเมริกัน เมดิคอล แอสโซซิเอชัน (JAMA) ระบุว่า ผู้ป่วยมะเร็งปอดทั่วโลกถึง 1 ใน 5 รายเป็นผู้ไม่สูบบุหรี่ โดยมะเร็งปอดในผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งหมายถึงผู้ที่สูบบุหรี่น้อยกว่า 100 มวนตลอดชีวิต คิดเป็น 15-20 เปอร์เซ็น ของผู้ป่วยมะเร็งปอดทั้งหมดทั่วโลกหรือกว่า 300,000 รายต่อปี โดยเฉพาะในเอเชียที่พบสูงถึง 40-50% ในผู้หญิง

งานวิจัยนี้รวบรวมข้อมูลจาก 92 การศึกษาทั่วโลก นำโดยนายแพทย์เบนจามิน โซโลมอน จากศูนย์มะเร็งปีเตอร์ แมคคัลลัม และมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น พบว่า มะเร็งปอดในกลุ่มนี้มักเป็นชนิดอะดีโนคาร์ซิโนมา ซึ่งเริ่มจากเซลล์ต่อมในปอด และมีแนวโน้มตรวจพบในระยะลุกลาม ผู้ป่วยกลุ่มนี้ยังมีอัตราการกลายพันธุ์ของยีนที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งสูงกว่าปกติ โดยเฉพาะยีน EGFR และ ALK ซึ่งทำให้การรักษาต้องใช้ยาแบบเจาะจง เช่น Osimertinib หรือ Alectinib ที่ช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตถึง 50-70% หากตรวจพบเร็ว

สาเหตุหลักที่ทำให้คนไม่สูบบุหรี่เสี่ยงมะเร็งปอด มาจากควันบุหรี่มือสอง มลพิษทางอากาศ เช่น PM2.5 สารกัมมันตรังสี แร่ใยหิน และประวัติครอบครัวที่มีญาติสายตรงเป็นมะเร็งปอด นักวิจัยชี้ว่า ปัญหานี้กำลังเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าภายในปี 2030 ผู้ป่วยกลุ่มนี้อาจเพิ่มขึ้นอีก 20% หากไม่มีการจัดการมลพิษและควันบุหรี่อย่างจริงจัง จึงเรียกร้องให้มีนโยบายตรวจคัดกรองและป้องกันเฉพาะสำหรับกลุ่มนี้ เพื่อลดความสูญเสียจากมะเร็งปอดที่หลายคนมองข้าม

จากการวิจัยก่อนหน้านี้ ระบุว่า ผู้ไม่สูบบุหรี่ที่มีความเสี่ยงสูงสุดต่อการเป็นมะเร็งปอด มักเป็นกลุ่มที่ได้รับควันบุหรี่มือสอง สัมผัสกับสารกัมมันตรังสี มลพิษทางอากาศ และแร่ใยหิน รวมถึงผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวสายตรง เช่น พ่อแม่หรือพี่น้องแท้ๆ เป็นมะเร็งปอดมาก่อน

งานวิจัยชี้ ไม่สูบบุหรี่ก็เสี่ยง มะเร็งปอด จากควันและ PM2.5

สถิติ มะเร็งปอด ในประเทศไทย

ร.อ.อ. นพ.สมชาย ธนะสิทธิชัย ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) หยิบข้อมูลสถานการณ์มะเร็งปอดในประเทศไทยระหว่างปี 2562 – 2564 มาสะท้อนสถานการณ์ปัจจุบันอย่างน่าสนใจ โดยระบุว่า จากเดิมเมื่อปี 2562 – 2564 มะเร็งปอดยังเป็นคงเป็นเบอร์หนึ่งในการค่าชีวิตผู้ป่วยมะเร็งของไทย แต่กับข้อมูลล่าสุดในปี 2568 มันอาจเลวร้ายกว่านั้น เพราะแต่ละวันจะมีคนเสียชีวิตจากมะเร็งปอดถึง 41 คนต่อวัน และยังมีผู้ป่วยมะเร็งปอดรายใหม่เฉลี่ยถึง 57 คนต่อวัน

ศ.ดร. นพ.ศรายุทธ ลูเซียน กีเตอร์ จากสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย เสริมข้อมูลว่า มะเร็งปอดคืออันดับ 1 ที่พบมากในเพศชาย และในเพศหญิงจะพบมากเป็นอันดับ 4 แต่ภาพรวมคือจะพบมะเร็งปอดเมื่ออยู่ในระยะลุกลาม หรือระยะที่ 4 ทำให้โอกาสในการรักษาให้หายขาดแทบไม่มี ต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาแบบประคับประคอง (Palliative care)

“ปัจจัยเสี่ยงสำคัญของมะเร็งปอดยังคงเป็นการสูบบุหรี่ แต่ในปัจจุบันยังพบความเกี่ยวข้องกับปัจจัยอื่น เช่น มลพิษทางอากาศ (PM2.5) และพันธุกรรม โดยมีแนวโน้มพบผู้ป่วยในวัยที่น้อยลง และประเทศไทยยังมีผู้หญิงที่ไม่สูบบุหรี่เป็นมะเร็งปอดสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก” ศ. ดร.นพ.ศรายุทธ สะท้อนข้อมูล

อาการ “มะเร็งปอด”

ทั่วไปแล้ว มะเร็งปอดในระยะเริ่มต้น ผู้ป่วยมักไม่แสดงอาการ แต่เมื่อโรคลุกลามแล้วมักมีอาการแสดง ที่สามารถสังเกตได้ดังนี้

  • ไอเรื้อรัง ไอมีเสมหะปนเลือด
  • หายใจลำบาก หอบเหนื่อย
  • หายใจสั้น หายใจมีเสียงหวีด
  • เจ็บหน้าอกตลอดเวลา
  • เสียงแหบ เสียงเปลี่ยน
  • ปอดติดเชื้อบ่อย
  • เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ

ขอบคุณแหล่งที่มาจาก igreenstory

เดือนแห่ง ‘วันนิเวศวิทยาโลก’ คืนสมดุลให้โลก กับการท่องเที่ยวเชิงยั่งยืน

Previous article

“เที่ยวดีมีคืน” กับ 10 แหล่งท่องเที่ยวไทยแนวรักษ์โลก คว้ารางวัล Green Destinations 2025

Next article

You may also like

More in Life