Sea Life Bangkok Ocean World ศูนย์เรียนรู้สิ่งแวดล้อมของคนเมือง
ว่ากันว่าวิธีการที่จะทำให้เราเรียนรู้สิ่งแวดล้อมได้ดีที่สุด คือการไปสัมผัสสิ่งนั้นด้วยตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าชีวิตคนเมืองคงจะหาทางสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ได้ยากเหมือนกันนะคะ ดังนั้นจึงมีพิพิธภัณฑ์หรือ
อะควาเรียม ที่จะนำเราสู่การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมที่ไม่มีสิ้นสุด อย่างที่ Sea Life Bangkok Ocean World ศูนย์เรียนรู้สิ่งแวดล้อมของคนเมือง
ทำความรู้จัก Sea Life Bangkok Ocean World
Sea Life Bangkok Ocea World หรือชื่อเดิมคือ Siam Ocean World นั่นเอง ซึ่งถูกซื้อกิจการโดย บริษัท เมอร์ลิน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ที่ทำการรีโนเวทใหม่พร้อมกับแนวคิดรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่าง การเพาะพันธุ์ช่วยเหลือและปกป้อง (Breed Rescue Protect) อีกทั้งยังเปิดประสบการณ์เรียนครั้งใหญ่อย่างโซนการเรียนรู้มากถึง 13 โซน ได้แก่ โพรงหินอำพราง (Rocky Hideout) ภารกิจใกล้ชิดฉลาม (Shark Walk) แนวปะการัง (Coral Reef) อาณาจักรม้าน้ำ (Seahorse Kingdom) ป่าดิบชื้น (Tropical Rainforest) แอ่งหินเรียนรู้ (Rockpools) หาดหิน (Rocky Shore) มหาสมุทรเขตร้อน (Tropical Ocean) อุโมงค์ใต้ทะเล (Ocean Tunnel) ฉลามกับซากเรือ (Shark Shipwreck) แมงกะพรุน (Jellies) เพนกวินสุขสันต์ มหัศจรรย์โลกน้ำแข็ง (Penguin Ice Adventure) และ มุมแห่งการอนุรักษ์ (Breed Recue Protect Conservation Cove)
ที่นี่มีสัตว์น้ำมากกว่า 12,000 ชีวิต ภายในแท็งก์ความจุที่ 3,000,000 ลิตร มีความโดดเด่นเรื่องความหลากหลายของปลาเขตร้อน อย่างที่บอกว่าการกลับมาของอถควาเรียมเวอร์ชั่นใหม่นี้มาพร้อมแนวคิดในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ดังนั้นเราจะไปดูไฮไลท์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้กัน
โซนแอ่งหิน (Rock Pool) สำรวจชายฝั่ง เรียนรู้สิ่งมีชีวิต พร้อมเทคโนโลยีใหม่ ๆ
โซนนี้เป็นโซนที่เปิดใหม่ภายหลังการรีโนเวทในคอนเซ็ปต์รักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติทางทะเล ที่เกิดจากหินที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะ แถมยังมีสิ่งมีชีวิตมากมายที่อยู่กันอย่างปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม โดยในโซนนี้จะมี 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่
- มหัศจรรย์ป่าโกงกาง (Wondrous Mangroves)
เป็นการจำลองพื้นที่ป่าโกงกางพร้อมนำเสนอให้เห็นความสำคัญของป่าโกงกางที่มีต่อระบบชายฝั่งทะเล และบรรดาสิ่งมีชีวิตที่ต่างเอื้อพื้นที่ในการดำรงชีวิต อีกทั้ง ป่าโกงกางยังทำหน้าที่เป็นแนวป้องกันชายทะเล แหล่งเพาะพันธุ์ปลาตัวเล็ก ๆ และเป็นหลุมหลบภัยให้กับสัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังได้เห็น
“ปลาตีน” สิ่งมีชีวิตที่เรามักจะได้เห็นตามดินโคลนแนวป่าโกงกาง ที่มีความพิเศษตรงที่ครีบมีลักษณะเหมือนเท้า ขุดรูลึกในดินเพื่อซ่อนตัว
ไฮไลท์ที่น่าสนใจในการเรียนรู้สิ่งแวดล้อมของที่นี่อีกอย่างที่ห้ามพลาด คือ เทคโนโลยีเสมือนจริง (AR) ที่สามารถสแกน QR code ผ่านหน้าจอโทรศัพท์ จากนั้นจะปรากฏบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ที่เราสามารถถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิด เช่น ลิงแสม นะกระเต็น นกกระสา เสือปลา งูปล้องทอง ตัวเงินตัวทอง ซึ่งสามารถบันทึกเป็นวีดีโอ พร้อมแชร์ลงโลกโซเชียลได้ทันที อีกทั้ง ยังมีโปรเจกเตอร์สามมิติ ที่จะฉายภาพชายทะเลที่มีคลื่นซัด ได้ยินเสียงคลื่นจริง ๆ แต่ไม่เปียกอีกด้วย
- ชายหาดเขตร้อน (Tropical Sandy Beaches)
ชายหาดซึ่งเป็นที่อยู่ของปูและหอยตัวเล็ก ๆ ที่ทำหน้าที่เสมือนเป็นทหารอารักขาชายฝั่งจากการกัดเซาะของทะเล
- แนวปะการังหลากสี (Colorful Coral Reefs)
แนวปะการังเป็นแหล่งวางไข่และอนุบาลลูกปลา โดยในพื้นนี้จะมีกิจกรรมที่น่าสนใจที่จะให้ผู้ชมได้เข้าร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยการชมสัตว์ 5 สายพันธุ์ จากพื้นที่ชายฝั่งทะเล ได้แก่ ปลิงทะเล ดาวทะเลปุ่มใหญ่ ดาวทะเลสีน้ำเงิน เม่นดินสอ และปูเสฉวนยักษ์จุดขาว ซึ่งเป็นโอกาสที่ผู้เข้ามชมจะได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด เพราะในชีวิตจริงเราไม่ควรจับสัตว์ทะเลตามธรรมชาติเลยนั่นเอง โดยทางอะควาเรียมจะมีคำแนะนำและข้อปฏิบัติในการสัมผัสสัตว์เหลานั้นอย่างถูกวิธี
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เราจะได้เรียนรู้ระบบนิเวศจาก Sea Life Bangkok Ocean World ที่นอกจากจะได้รับความสนุกแล้ว ยังได้ความรู้ที่จะได้เรียนรู้การอนุรักษ์สัตว์น้ำและสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติอย่างถูกต้องอีกด้วย
ติดตามข่าวสารและบทความเกี่ยวกับ The Sustain – ธุรกิจและความยั่งยืน พลังงาน ภาวะโลกร้อน ทรัพยากรธรรมชาติ