ยุค social ลดโลกร้อน จริงหรือไม่…? เมื่อโลกของเรา ได้เข้าไปสู่ยุคโซเชียลและเทคโนโลยีมากขึ้นเท่าไร จะทำให้ช่วยลดโลกร้อนได้ หากลองคิดดูเร็วๆ แล้วก็มีความเป็นได้อยู่ อย่างเช่น ธนาคารที่ไม่ต้องมี book bank, ส่งการบ้านด้วยไฟล์ word แทนการส่งเป็นเอกสารหรือสมุด, ลดการใช้เงินสด เพียงใช้แอพธนาคารจ่ายเงินแทน งั้นลองไปดูผลสำรวจกันดูว่าแนวโม้นของโลกยุคโซเชียล ดีต่อโลกเราจริงหรือไม่
ยุค social ลดโลกร้อน ได้หรือไม่!
จากผลศึกษาโครงการกระดาษเพื่อต้นไม้ โดยมูลนิธิศูนย์สื่อเพื่อการพัฒนา พบว่าเฉลี่ยหนึ่งคนใช้กระดาษไป 12,000 แผ่น/ปี หมายความว่าเราต้องตัดต้นไม้ประมาณ 18 ต้น/คน และถ้ารวมทั้งประเทศต้องตัดต้นไม้มากถึง 66.3 ล้านต้น/ปี
ดูจากตัวเลขแล้วเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ที่ต้องสูญเสียทรัพยากรสีเขียวเพื่อตอบสนองการใช้งานของคน ก่อนที่จะเป็น ‘กระดาษ’ ที่ใช้กันทุกวันนี้ ทุกคนคงทราบกันดีว่ามาจากการตัดต้นไม้ ซึ่งก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อนมากขึ้น
แต่ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้เราสามารถลดการใช้กระดาษในชีวิตประจำวันได้มากกว่าที่เคย อย่างการสแกน QR Code ชำระสินค้า, ซื้อของออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน หรือการพรีเซนต์งานบนสไลด์แทนการพิมพ์เอกสาร ทุกประเทศต่างนำสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้มาปรับใช้กับชีวิตในปัจจุบัน ซึ่งช่วยทำให้การใช้กระดาษน้อยลงและรู้จักใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่ามากขึ้น เราไปดูกันดีกว่า ว่าพวกเขามีแนวทางการลดใช้กระดาษกันอย่างไร
บริษัทเจเอสเอสอาร์ อ๊อกชั่น จำกัด โดยบริษัท เจ เอส เอส อาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กำลังจะมีโครงการ ‘.ใช้เทคโนโลยีทดแทน ลดกระดาษ’ตั้งแต่ มกราคม ในปี 25ุ63 เป็นต้นไป ลดการตีพิมพ์ แคตาล็อครายเดือน โดยหันมาใช้อินเทอร์เน็ตและแอปพลิเคชันมากขึ้น
สภาวะโลกร้อน ไม่ใช่เรื่องของใครคนเดียวอีกต่อไป จากที่กล่าวมาทั้งหมด ทุกคนมีส่วนร่วมในการรักษาโลกของเรา เริ่มจากตัวเอง สังคม ไปจนถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างก็ให้ความร่วมมือในการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และปรับตัวต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน แม้ว่าทุกวันนี้ยังไม่สามารถเลิกใช้กระดาษได้ 100%
แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับปัญหาเหล่านี้ เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงคุณค่า และปลูกฝังคนรุ่นหลังให้มีใจรักสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก content.jssr